ในวงการฟุตบอล มีนักเตะดางดัวหลายคนที่พสูจน์ให้แฟนบอลหลายคนรู้ว่า อายุก็แค่ตัวเลข ที่ไม่สามารถมาพากเอาฟุตบอลไปได้
วันนี้ก็จะมาส่องดาวดังทั้ง 6 คนที่ ถึงแม้อายุจะเยอะแต่เรื่องความฟิตในการแข่งบอกได้คำเดียวว่า ฟิตเปี้ยะ เรามาดูว่ามีดาวดังคนไหนบ้าง
โรเก้ ซานตา ครูซ
เคยโด่งดังมากๆ กับ บาเยิร์น มิวนิค (ปี 1999-2007) แถมเคยแวะมาค้าแข้งในเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (ปี 2007-2009) และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ปี 2009-2013) ด้วย ตอนนี้ในวัย 40 ปี หลายคนคิดว่า ซานตา ครูซ ที่อดีตเป็นนักเตะที่สาวๆ กรี๊ดมากที่สุดคนหนึ่ง คงแขวนสตั๊ดไปแล้ว แต่ไม่ใช่เลย เพราะปัจจุบันเจ้าตัวกำลังเล่นให้กับ โอลิมเปีย สโมสรยักษ์ใหญ่ในลีกบ้านเกิด (ปารากวัย) ซึ่งถือเป็นต้นสังกัดแรกในอาชีพนักเตะของเจ้าตัวด้วย แถมมีผลงานไม่เบา เพราะปีที่แล้ว กระทุ้งไปถึง 17 ประตู จากการลงเล่น 32 นัด
อันเดรส ดาเลสซานโดร
เป็นอีกหนึ่งแข้งดังเลือด “ฟ้า-ขาว” ที่เคยถูกมองว่าเป็น “นิว มาราโดน่า” โดยเฉพาะช่วงที่ก้าวขึ้นมาดังใหม่ๆ กับ ริเวอร์เพลท (ปี 2000-2003) แม้เจ้าตัวไม่ประสบความสำเร็จกับการมาค้าแข้งที่ยุโรปกับ เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก, พอร์ทสมัธ และ เรอัล ซาราโกซ่า แต่ ดาเลสซานโดร กลับไปยิ่งใหญ่ในทวีปอเมริกาใต้อีกครั้งกับ อินเตอร์นาซิอองนาล สโมสรดังในลีกบราซิล ที่เจ้าตัวอยู่รับใช้มานานถึง 12 ปี (2008-2020) และตอนนี้ในวัย 40 กะรัต ดาเลสซานโดร ยังไม่รีไทร์ เพราะกำลังเล่นให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่ในลีกอุรุกวัยอย่าง นาซิอองนาล โดยเจ้าตัวเพิ่งเซ็นสัญญากับสโมสรเป็นเวลา 1 ปี เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ริคาร์โด้ กวาเรสม่า
เชื่อว่าแฟนบอลหลายๆ ท่าน รู้จักนักเตะคนนี้ดีกับฉายา “เทพไซด์ก้อย” แถมก้าวขึ้นมาโด่งดังในช่วงเวลาใกล้เคียงกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่กราฟชีวิตหลังจากนั้น ช่างแตกต่างเหลือเกิน เพราะหลังจากที่ กวาเรสม่า แจ้งเกิดกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เจ้าตัวก็ย้ายไปดับสนิทกับ บาร์เซโลน่า (ปี 2003-2004) ก่อนกลับมากู้ชื่อในลีกบ้านเกิดกับ ปอร์โต้ (ปี 2004-2008) หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ดับอีก ไม่ว่าจะเป็นการเล่นให้ อินเตอร์ มิลาน หรือ เชลซี อาจจะเริ่มถูกพูดถึงอีกครั้งตอนค้าแข้งในลีกตุรกีกับ เบซิคตัส (2 ช่วง ปี 2010-2012 และ 2015-2019) แต่หลังๆ มานี้เจ้าตัวหายเงียบจนคิดว่ารีไทร์ไปแล้ว กระนั้นปัจจุบัน กวาเรสม่า วัย 37 ปี ยังคงวาดลวดลาย และโชว์การปั่นไซด์ก้อยโค้งๆ อยู่กับ วิคตอเรีย กิมาไรส์ ภายใต้เสื้อเบอร์ 10
เจย์ โบธรอยด์
นี่คือนักเตะที่ครั้งหนึ่งเคยมาค้าแข้งที่ไทยช่วงสั้นๆ กับ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด (ปี 2014) โดยตลอดช่วงที่ผ่านมา โบธรอยด์ ค้าแข้งกับหลายสโมสร รวมถึง เปรูจา (2003-2005) ที่อิตาลี แต่ที่ดังมากๆ ก็ตอนเล่นให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (2006-2008) และ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (2008-2011) จนทำให้เจ้าตัวมีโอกาสได้ลงสนามรับใช้ทีมชาติอังกฤษ 1 นัด ปัจจุบันในวัย 39 ปี โบธรอยด์ ยังคงเล่นฟุตบอลได้อย่างแข็งแกร่งในศึก เจลีก ญี่ปุ่น กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร สโมสรเดียวกับเจ้า “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ แข้งสตาร์ดังแดนสยาม นั่นเอง
มักซี่ โรดริเกซ
หลายคนจดจำลูกยิงวอลเล่ย์สุดสวยของแข้งรายนี้ได้เป็นอย่างดี จากศึกฟุตบอลโลก 2006 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ อาร์เจนตินา ต่อเวลาพิเศษ เชือด เม็กซิโก 2-1 เช่นเดียวกับสาวก “หงส์แดง” เพราะเจ้าตัวเคยมาเล่นให้ ลิเวอร์พูล ช่วงระหว่างปี 2010-2012 หลังจากที่เป็นกำลังสำคัญให้ แอตเลติโก มาดริด มานาน 5 ปี และปัจจุบัน โรดริเกซ ในวัย 40 ปี กำลังค้าแข้งกับ นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ สโมสรดังในลีกบ้านเกิด ซึ่งถือเป็นหนที่สามแล้ว ที่เจ้าตัวเล่นให้สโมสรแห่งนี้ ต่อจากช่วงปี 1999-2002 และ 2012-2017
ชุนซูเกะ นากามูระ
ไม่ใช่แค่ยุค 2000 เพราะนักเตะคนนี้ดังมาตั้งแต่ยุคปลาย 90 แล้ว ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มีใครไม่รู้จัก นากามูระ จอมทัพชาวญี่ปุ่น ผู้ซึ่งเคยได้รับการยกย่องให้เป็นนักเตะที่ยิงฟรีคิกได้เฉียบขาดที่สุดคนหนึ่งของโลก โดยหลังจากแจ้งเกิดกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เจ้าตัวก็โยกไปลุยเวที กัลโช่ เซเรีย อา กับ เรจจิน่า (ปี 2002-2005) ซึ่งถือเป็นแข้งเอเชียยุคแรกๆ ที่มาดังในยุโรป ก่อนย้ายไปดังระเบิดกับ เซลติก สโมสรยักษ์ใหญ่ในลีกแดนวิสกี้ ทว่าหลังจากนั้นเริ่มเงียบๆ เพราะไม่ประสบความสำเร็จกับ เอสปันญ่อล ที่สเปน ก่อนกลับมาเล่นให้ มารินอส อีกคำรบในปี 2010 และปัจจุบันในวัย 43 ปี นากามูระ ไม่ยอมแขวนเกือกง่ายๆ เพราะกำลังค้าแข้งกับ โยโกฮาม่า เอฟซี ซึ่งตอนนี้รั้งรองบ๊วยในตารางคะแนน เจลีก